“ศิลปะไทยเดินหน้าไม่หยุดสวนกระแสความไม่แน่นอนของตลาดการลงทุน”

​

ผู้รักในศิลปะแห่ประมูลสู้ราคากันติดเพดาน นำทัพด้วยผลงาน “ดรสาแบหลา” จากปี พ.ศ. 2526 โดยอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต ปิดประมูลไปที่ 22.6 ล้านบาท ทำลายสถิติการประมูลสูงสุดของศิลปินผู้เลื่องนามท่านนี้

​

ตามด้วยศิลปินแนว Contemporary Art คนสำคัญของไทยที่มีผลงานโดดเด่นในเวทีนานาชาติและในการประมูลทั่วโลก กับผลงาน The Thin Line Between Faith and Foolishness ปี พ.ศ. 2558 ของศิลปินนที อุตฤทธิ์ ต่อสู้กันตั้งแต่ 3.8 ล้านบาท จบราคารวมค่าธรรมเนียมไปที่ 5.8 ล้านบาท และผลงานอีกชิ้นของทวี นันทขว้าง กับภาพดอกบัวในปี พ.ศ. 2528 ในขนาด 90 x 72 cm ก็ทำสถิติสูงถึง 4.6 ล้านบาท

​

การต่อสู้ที่ดุเดือดของผู้เข้าร่วมประมูลกับภาพที่แสดงพลังของดวงอาทิตย์ ของศิลปินผู้เป็นตำนาน “ประเทือง เอมเจริญ” ก็ต่อสู้ราคากันจาก 800,000 บาทไปที่ 2 ล้านบาท ด้วยความตื่นเต้นของผู้เข้าร่วมประมูล

​

นอกจากนี้ ศิลปะของศิลปินรุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับก็ออกไปอย่างงดงามหลายชิ้น เช่น ผลงาน “ธนาคารบุญ” ของน็อบบี้ - พัฒน์ดนู เตมีกุล, ผลงาน Somewhere I Belong ของเนียม มะวรคนอง, ผลงาน Stranger to Friend ของ Suntur และภาพพิมพ์ของ Takashi Murakami ผลงาน Doraemon: On an Endless Journey on a Time Machine with the Author Fujiko F. Fujio

​

ท่ามกลางเศรษฐกิจความไม่แน่นอน การผกผันของตลาดหุ้น และสงครามภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า ศิลปะไทยได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเดินสวนกระแสแห่งความไม่แน่นอนเหล่านั้นมาอยู่ในจุดที่เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมของคนรุ่นต่างๆ มากยิ่งขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของการนำเอาศิลปะไปอยู่ในการตกแต่งและการสะสมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของรสนิยมไทย

​

มีผู้ร่วมประมูลทั้งจากแวดวงศิลปิน นักร้อง นักธุรกิจ แพทย์ ผู้ประกอบการด้าน Construction และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ตอกย้ำการขยายตัวของตลาดศิลปะในประเทศไทยอย่างชัดเจน